กิจกรรม

อ่านเมือง อ่านอดีต: Museum Links กับชมรมยูเนสโก โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

13 - 14 มี.ค. 2568

เวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติการที่ชมรมยูเนสโกโรงเรียนสวนกุหลาบฯ ได้เรียนรู้เรื่องราวของ “สยามใหม่” ผ่านการบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญ นักเรียนร่วมกันตีความแผนที่และภาพถ่าย พร้อมทัศนศึกษาเพื่อสำรวจสถานที่สำคัญทั้งแปดแห่งในเกาะรัตนโกสินทร์ แต่ละทีมประมวลผลสิ่งที่ได้เรียนรู้ในรูปแบบโปสเตอร์ และนำเสนอการเปลี่ยนแปลงและความต่อเนื่องของเมือง กิจกรรมช่วยพัฒนาทักษะอ่านหลักฐานทางประวัติศาสตร์ การทำงานเป็นทีม และการสื่อสารเชิงวิเคราะห์ นักเรียนสะท้อนมุมมองจากการเข้าร่วมกิจกรรม ที่ระบุควาวมเข้าใจในตรอกซอยและอาคารคือบทสนทนาของอดีตที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน



ตลอดสองวัน (13–14 มีนาคม 2568) นักเรียนชมรมยูเนสโก โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ร่วมกิจกรรม Xplorer squads นักสืบเยาวชนแกะรอยอดีต ในวันแรก นักเรียนในแต่ละกลุ่มถอดรหัสแผนที่สามยุค (พ.ศ. 2430, 2475, ปัจจุบัน) และเปรียบเทียบภาพถ่ายเก่า เพื่อตามรอยคลอง เส้นถนน และอาคารต่างๆ และบันทึกข้อมูล ในวันถัดมา นักเรียนออกสำรวจสถานที่ทั้ง 8 แห่งในเกาะรัตนโกสินทร์ ใช้การสังเกตภาคสนามเป็นประโยชน์ในการสังเกตและบันทึกรายละเอียดของพื้นที่ในปัจจุบัน เช่น สถานที่สำคัญและตึกแถวในสมัยรัชกาลที่ 5 รวมถึงวิถีชีวิตในพื้นที่สาธารณะที่เปลี่ยนแปลง จากนั้นทุกทีมสร้างสรรค์โปสเตอร์ในการสรุปผลจากการเรียนรู้ตลอดสองวัน และนำเสนอผลงานต่อเพื่อนๆ กระบวนการในสองวันเสริมสร้างทักษะตั้งคำถามเชิงวิพากษ์และเล่าเรื่องด้วยการทำงานเป็นทีม วิธีการเรียนรู้ที่ให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางช่วยปลูกฝังให้พวกเขา “อ่าน” เมืองราวกับเป็นคลังความทรงจำที่มีชีวิต


วิดีโอนี้สรุปช่วงสำคัญจากกิจกรรม Xplorer Squads ของนักเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ณ มิวเซียมสยามและเกาะรัตนโกสินทร์ ตลอด 2 วันของการเรียนรู้ นักเรียนได้ฟังบรรยาย วิเคราะห์แผนที่ และทำกิจกรรม “นักสืบภาพถ่าย” ในพื้นที่จริง เพื่อเปรียบเทียบบริบทอดีตและปัจจุบัน ก่อนนำเสนอผลการค้นพบในรูปแบบทีม วิดีโอสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ช่วยเสริมสร้างความอยากรู้อยากเห็น การทำงานร่วมกัน และความเข้าใจประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สมาชิกชมรมยูเนสโก โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ร่วมเวิร์กช็อป Museum Links – Xplorer Squad ณ มิวเซียมสยาม

ในเช้าวันแรก คุณศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี เริ่มต้นเนื้อหาในการถ่ายทอดมุมมอง สำหรับการทำความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลง “สยามใหม่” โดยกล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงสำคัญในสมัยรัชกาลที่ 4–7 และยกตัวอย่างสิ่งที่นักเรียนสามารถใช้เรียนรู้ เช่นบทความภาษาอังกฤษของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่กล่าวถึงสยามประเทศ สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปในราชสำนัก การพัฒนาถนนและบ้าน รวมถึงระบบการบริหารบ้านเมืองและการศึกษาพระราชดำริต่าง ๆ มีจุดมุ่งหมายในการสร้างความเจริญของประเทศ และสื่อสารกับชาติตะวันตกเพื่อยืนยันความเป็นอารยะของชาติ หลังบรรยาย นักเรียนแบ่งเป็น 4 ทีม แต่ละทีมศึกษาสถานที่สำคัญ 2 แห่ง เพื่อทำความเข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่เกิดขึ้น เบื้องแรกนักเรียนศึกษาผ่านแผนที่ 3 ยุค (พ.ศ. 2430, 2475, ปัจจุบัน) และภาพถ่ายเก่า–ใหม่ ทุกทีมใช้แผนที่เป็น “เข็มทิศ” ตรวจสอบถนน คลอง และชุมชนที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของเมือง พร้อมเรียนรู้การอ่านภาพถ่ายในรายละเอียดเพื่อบันทึกความเป็นมาในอดีต และเตรียมควาวมพร้อมสำหรับการสำรวจในวันรุ่งขึ้น ด้วยความเข้าใจในเนื้อหาจากการเรียนรู้จากหลักฐานในวันแรก ทั้งสี่ทีมพร้อมแผนที่ออกสำรวจสถานที่ทั้งแปดแห่งในเกาะรัตนโกสินทร์ในวันต่อมา ใจกลางกรุงเก่าสมัยรัตนโกสินทร์ที่ยังคงร่องรอยของยุค สยามใหม่ อยู่ทุกตรอกซอย เริ่มจากตึกแถวที่เกิดขึ้นภายใต้การปฏิรูปเมืองของรัชกาลที่ 5 ไปจนถึงอาคารสไตล์ยุโรป ประตูเหล็กหล่อซ่อนตัวในสวนสาธารณะ และถนนหนทาง หรือการปรับใช้อาคารหลายแห่งเพื่อตอบสนองการใช้งานในปัจจุบัน

นักเรียนใช้แผนที่ปัจจุบันในการระบุตำแหน่งและเส้นทาง พร้อมทั้งฟังเรื่องเล่าจากวิทยากร นอกากนี้ ยังใช้การเปรียบเทียบภาพถ่ายเก่ากับสถานที่ในปัจจุบัน สังเกตทั้งรายละเอียดที่ยังคงอยู่กับการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัด เช่น โครงสร้างร่วมสมัยที่แทรกตัวในอาคารเก่า หรือรูปแบบการใช้อาคารที่ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย การสำรวจครั้งนี้ไม่เพียงเปิดโอกาสให้นักเรียนเห็นบริบทของเมืองรอบตัว แต่ยังสอนให้รู้จักอ่าน “ภูมิทัศน์” เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทำให้เข้าใจว่าแม้วันเวลาจะเปลี่ยนไป แต่อาคาร ถนนหนทาง และทุกตรอกยังเล่าเรื่องราวของกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อเรารู้จักตั้งคำถามและแสวงหาความรู้ กลับเข้ามายังมิวเซียมสยาม แต่ละทีมสรุปข้อมูลลงบนโปสเตอร์สีสันสดใส ผสมผสานแผนที่ ภาพเปรียบเทียบ และประเด็นสำคัญในการค้นพบ การนำเสนอเนื้อหาและแบ่งปันข้อมูลให้เพื่อนร่วมชมรมเห็นภาพรวมของสยามใหม่อย่างชัดเจน

นักเรียนหลายคนกล่าวว่า “การได้เดินสำรวจสถานที่จริง ทำให้ประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือ” และ “รู้จักสถานที่หลายแห่ง แต่เมื่อเรียนรู้ที่มา ทำให้เข้าใจสถานที่เหล่านั้นมากขึ้น” ฝั่งครูผู้ดูแลชมรมต่างชื่นชมว่าการใช้แผนที่และการสำรวจภาคสนามจะช่วยเติมเต็มกิจกรรมชมรมและพิพิธภัณฑ์โรงเรียน เพื่อให้ประวัติศาสตร์กลายเป็นบทสนทนาที่ต่อเนื่องระหว่างอดีตกับปัจจุบัน