ขณะที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์สมบัติ ทั่วโลกเกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมถึงประเทศไทย รัชกาลที่ 7 ทรงปรับลดงบประมาณในส่วนต่าง ๆ ทั้งงบประมาณส่วนพระมหากษัตริย์ งบประมาณด้านการทหาร รวมถึงการยุบหน่วยราชการและปลดข้าราชการออกเป็นจำนวนมากเพื่อลดรายจ่ายของประเทศ ทำให้เกิดความไม่พอใจอันเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองในปีพ.ศ.2475 และรัชกาลที่ 7 ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญการปกครองให้แก่สยาม
ตลอดช่วงรัชสมัย พระราชกรณียกิจที่สำคัญมีหลายด้าน เช่น ด้านการปกครอง โปรดให้ตั้งสภากรรมการองคมนตรี ทรงตรากฎหมายเพื่อควบคุมการค้าขายที่เป็นสาธารณูปโภคและการเงิน ระบบเทศบาล ด้านศิลปวัฒนธรรม โปรดให้สร้างหอพระสมุด ปฏิรูปการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ปรับปรุงการศึกษาให้ยกระดับมาตรฐานถึงปริญญาตรี ทรงตั้งราชบัณฑิตยสภา โปรดให้จัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับพิมพ์อักษรไทยสมบูรณ์ ชื่อว่า "พระไตรปิฎกสยามรัฐ" เป็นต้น
พ.ศ.2475 เป็นวาระที่กรุงรัตนโกสินทร์มีอายุ 150 ปี รัชกาลที่ 7 มีพระราชดำริที่จะจัดการสมโภชพระนครตามโบราณราชประเพณีครั้งยิ่งใหญ่ มีการทำนุบำรุงบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวัง นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ให้จัดการสร้างถาวรวัตถุในการเฉลิมฉลองพระนครด้วยความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ได้แก่
การสร้างปฐมบรมราชานุสรณ์และสะพานพระพุทธยอดฟ้าเชื่อมฝั่งกรุงเทพมหานครและฝั่งธนบุรี เพื่อเป็นการขยายเขตเมืองให้กว้างขวาง สะพานพุทธยอดฟ้านับเป็นสะพานถนนแห่งแรกให้รถยนต์สัญจรข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก ในการออกแบบ มีการใช้เทคโนโลยีและวิทยาการก่อสร้างที่ทันสมัยโดยสะพานสามารถเปิดและปิดได้
ส่วนศาลาเฉลิมกรุงเป็นโรงมหรสพขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกและมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศระบบไอน้ำ ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ที่ทันสมัยในยุคสมัยนั้น มีการจัดฉายภาพยนตร์ที่นำเข้ามาจากตะวันตก นับเป็นการรับรูปแบบวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาและส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนรูปแบบวัฒนธรรมความบันเทิงในสังคมไทยให้มีความเป็นสากลมากขึ้น