สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี เป็นพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 66 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ประสูติแต่สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2407 ทรงมีพระเชษฐาและพระขนิษฐาร่วมพระมารดาทั้งสิ้น 6 พระองค์ เมื่อยังทรงพระเยาว์ ได้ทรงศึกษาเล่าเรียนแต่เพียงน้อย ครั้นถึงในรัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระเมตตากรุณา ใช้สอยติดตามเสด็จ ได้ทรงเห็นทรงฟังพระราชกระแสรับสั่ง ตลอดจนการงานในพระราชสำนัก ทรงพระอุตสาหะหมั่นสอบถาม และศึกษาอยู่เสมอ

ครั้นถึงพ.ศ. 2421 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานไว้ในฐานะพระมเหสี มีพระอิสริยยศสืบมาตามลำดับ กล่าวคือ พระนางเธอ เสาวภาผ่องศรี ต่อมาในพ.ศ. 2423 เป็น พระนางเจ้าฯ พระวรราชเทวี พุทธศักราช 2427 เป็น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระอัครราชเทวี และในคราวที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็น สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนารถ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินต่างพระองค์ ในรัชกาลที่ 6 เฉลิมพระปรมาภิไธย เป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนี ออกพระนามโดยทั่วไปว่า สมเด็จพระพันปีหลวง

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ผู้หญิงยังไม่มีโอกาสทางการศึกษามากนัก พระองค์ทรงเล็งเห็นว่า การพัฒนาประเทศจะสมบูรณ์ได้ ต้องอาศัยการศึกษาของประชาชนทั้งชายและหญิง จึงทรงผลักดันให้สตรีไทยได้รับความรู้เทียบเท่าบุรุษ โดยเน้นทั้งความรู้ทางภาษา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และคุณธรรมจริยธรรม จึงทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ตั้งโรงเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกุลสตรี จะได้ศึกษาเล่าเรียน มีโรงเรียนที่ทรงตั้งขึ้นและอุปถัมภ์ อาทิ โรงเรียนราชินี โรงเรียนเสาวภา โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ (ต่อมาคือคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล) โรงเรียนวิเชียรมาตุ โรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรัง โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โรงเรียนราชินีบูรณะ จังหวัดนครปฐม

พระองค์ทรงเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนราชินีเมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดตั้งโรงเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้สตรีไทยได้เรียนรู้วิชาความรู้ทั้งด้านวิชาการและงานฝีมือ อันจะนำไปสู่การพึ่งพาตนเองและการประกอบอาชีพได้ในอนาคต พระองค์ยังทรงกำหนดแนวทางการเรียนการสอน จ้างครูทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยมาร่วมพัฒนาการศึกษา และทรงติดตามผลการดำเนินงานของโรงเรียนอย่างใกล้ชิด โรงเรียนราชินีจึงไม่เพียงเป็นสถานศึกษา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านสู่ความเสมอภาคทางเพศในสังคมไทยยุคใหม่

นอกจากนี้ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถทรงบริจาคพระราชทรัพย์ และทรงเป็นธุระในการจัดตั้งสภาอุณาโลมแดงแห่งชาติสยามมาตั้งแต่แรก และทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาของสภากาชาดมายาวนาถึง 26 ปี ได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์เป็นจำนวนมากบำรุงโรงพยาบาลหลายแห่ง ทรงมีพระมหากรุณาแก่สตรีมีครรภ์พระราชทานเงินแก่ผู้มาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลศิริราชทุกคน

สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2462 พระชนมายุ 57 พรรษา ตลอดพระชนมชีพทรงมีบทบาทในด้านสาธารณสุข การศึกษาและการสังคมสงเคราะห์ สำหรับบทบาทด้านการส่งเสริมการศึกษาของพระองค์ ช่วยเปลี่ยนค่านิยมของสังคมไทยในสมัยนั้น ที่มองว่าสตรีควรอยู่กับบ้าน มาเป็นสตรีที่มีสิทธิในการเรียนรู้ มีความรู้ความสามารถ และมีศักยภาพในการเป็นกำลังสำคัญของชาติ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ทรงเป็นผู้นำในการปฏิรูปบทบาทของสตรีไทยผ่านการศึกษา