พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2396 และเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 2453 รวมระยะเวลาครองราชย์ 42 ปี รัชสมัยของพระองค์เป็นช่วงต่อเนื่องจากการปฏิรูปในสมัยพระราชบิดา คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) แต่ต้องเผชิญแรงกดดันที่รุนแรงขึ้นจากการขยายอิทธิพลของมหาอำนาจตะวันตก พระองค์ทรงปรับปรุงสยามในทุกด้าน ทั้งด้านการปกครอง การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประเทศสมัยใหม่ให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ รวมทั้งการเจริญสัมพันธไมตรีกับชาติตะวันตก
หนึ่งในพระราชกรณียกิจสำคัญคือ การเลิกทาสและระบบไพร่ ควบคู่ไปกับการปฏิรูประบบการปกครอง โดยจัดทำโครงสร้างการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล แบ่งเขตเป็นมณฑล จังหวัด และอำเภอ ให้มีความเป็นระบบแบบสมัยใหม่ พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค ทั้งทางบกและทางน้ำ เช่น การสร้างทางรถไฟ การขุดคลอง การวางระบบไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ การจัดตั้งการไฟฟ้าและประปา ในการบริหารราชการแผ่นดิน พระองค์ทรงตั้งคณะเสนาบดีและที่ปรึกษา และจัดตั้งกระทรวงให้ดูแลเฉพาะด้านต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ในด้านการศึกษา ทรงทรงเสริมให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษา เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความรู้มารับราชการในระบบราชการ หนึ่งในพระราชดำริ พระองค์ทรงอนุญาตตามคำกราบบังคมทูลของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ให้ตั้งโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบขึ้น ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
ในรัชสมัยของพระองค์ สยามเผชิญกับแรงกดดันจากภัยคุกคามของอิทธิพลตะวันตก เช่น ฝรั่งเศสและอังกฤษ แต่ด้วยพระปรีชาสามารถ พระองค์ทรงเลือกพัฒนาและเจริญสัมพันธไมตรีกับชาติตะวันตก เพื่อลดความเสี่ยงของการตกเป็นอาณานิคม พระองค์เสด็จประพาสยุโรปและเอเชียหลายครั้ง และทรงส่งพระราชวงศ์ไปศึกษาต่างประเทศเพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาสยาม ภายในประเทศ ทรงจัดตั้งโรงเรียนหลายแห่งเพื่อให้ราษฎรได้รับการศึกษาตามแบบสมัยใหม่ เพื่อสร้างบุคลากรรองรับการปฏิรูประบบราชการ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงสนับสนุนศิลปะและหัตถศิลป์ไทยไม่ให้สูญหายไปในกระแสวัฒนธรรมตะวันตก ทรงมีพระราชดำริให้ปรับปรุงและพัฒนาให้ทันสมัยและสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม โดยกระทรวงธรรมการในสมัยนั้นได้ดำเนินงานตามพระราชดำริ และพัฒนาต่อเนื่องจนกลายเป็นโรงเรียนเพาะช่างในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6)
ด้านระบบคมนาคมขนส่งสมัยใหม่ พระองค์ทรงสนับสนุนการสร้างระบบรถรางในพระนคร ซึ่งรถรางนับเป็นระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยในเวลานั้น ก่อนที่จะมีรถไฟและรถโดยสาร นอกจากนี้ รถรางไฟฟ้าในพระนครยังนับเป็นรถรางไฟฟ้าสายแรกในทวีปเอเชีย สำหรับกิจการไฟฟ้า มีต้นกำเนิดจากการที่เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (เจิม แสงชูโต) ได้เดินทางไปยุโรปและเห็นประโยชน์ของการใช้ไฟฟ้า จึงได้นำแนวคิดกลับมาพัฒนาในสยามจนก่อกำเนิดเป็นบริษัทไฟฟ้าสยาม ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอนุญาตให้ดำเนินกิจการไฟฟ้าในสยามอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้มีระบบไฟฟ้าที่สามารถรองรับการทำงานของรถรางไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ได้
ในด้านภูมิทัศน์เมือง พระองค์ทรงปรับปรุงกรุงเทพฯ ให้มีความเป็นระเบียบและสวยงามตามแบบยุโรป ตัวอย่างสำคัญคือ การพัฒนาตลาดท่าเตียนจากตลาดกลางแจ้งที่คับคั่งตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ให้กลายเป็นแนวตึกแถวแบบยุโรปที่เป็นระเบียบและสะอาด อีกทั้งยังทรงปรับปรุงสวนสราญรมย์ซึ่งเดิมเป็นพระราชอุทยานของพระบรมมหาราชวังสราญรมย์ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์แบบตะวันตก โดยมีนายเฮนรี อาลาบาสเตอร์ (Henry Alabaster) เป็นผู้ออกแบบและจัดภูมิทัศน์ รวบรวมพันธุ์ไม้หายากจากต่างประเทศให้เป็นแหล่งพักผ่อนและแหล่งเรียนรู้ของผู้คน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ ทรงมีพระราชดำริในการพัฒนาสยามใหม่ในทุกมิติ ตั้งแต่การบริหาร การศึกษา การสร้างบุคลากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการปรับภูมิทัศน์เมือง ทำให้สยามกลายเป็นประเทศที่มีความทันสมัย สามารถดำรงอยู่ท่ามกลางกระแสล่าอาณานิคม