พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2424 และเสด็จสวรรคต พ.ศ. 2468 ทรงครองราชย์เป็นระยะเวลา 15 ปี รัชสมัยของพระองค์ดำเนินไปท่ามกลางแรงกดดันจากหลากหลายปัจจัย ทั้งภาวะการคลังที่ตึงตัวเนื่องจากสยามเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในระดับนานาชาติ ความขัดแย้งภายในกองทัพ การเผยแพร่ของแนวคิดประชาธิปไตย และการเปลี่ยนแปลงของระบอบการเมืองในประเทศเพื่อนบ้านรอบสยาม

ในช่วงรัชกาลของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจและสังคมที่เพิ่มขึ้น ความคิดทางการเมืองแบบใหม่ เช่น ระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ เริ่มได้รับความสนใจในหมู่ปัญญาชน ข้าราชการ และกลุ่มทหารบางส่วน พระองค์จึงได้ดำเนินการปฏิรูปหลายด้าน เช่น การปรับโครงสร้างกองทัพ การรวมมณฑลเพื่อลดรายจ่ายของรัฐ และการตรา “พระราชบัญญัติคลังออมสิน” เพื่อส่งเสริมการออมของประชาชน

หนึ่งในพระราชกรณียกิจที่สะท้อนวิสัยทัศน์ต่อการเมืองสมัยใหม่คือ “โครงการดุสิตธานี” ซึ่งเป็นเมืองจำลองที่มีรัฐธรรมนูญ ของตนเอง สภาที่มาจากการเลือกตั้ง และมีสื่อสิ่งพิมพ์ในท้องถิ่น แม้จะเป็นเพียงการทดลองในขนาดเล็ก แต่โครงการนี้ก็แสดงให้เห็นถึงการเปิดกว้างของพระองค์ต่อแนวโน้มการเมืองแบบรัฐสภาและความสนพระราชหฤทัยต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ทางการเมืองของประชาชน นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีพระราชดำริในการจัดตั้งหน่วยงานและองค์กรสำคัญ เช่น บริษัทปูนซีเมนต์ไทย และสภาเผยแผ่พาณิชย์ พร้อมทั้งทรงให้ความสำคัญกับงานด้านการสาธารณสุข การศึกษา และการพัฒนาวัฒนธรรมในฐานะรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาและศิลปวัฒนธรรมอย่างยิ่ง ดังเช่นการก่อตั้ง “โรงเรียนเพาะช่าง” ซึ่งเป็นโครงการที่สืบเนื่องมาจากพระราชดำริของพระราชบิดา คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ที่มีพระราชประสงค์จะอนุรักษ์และส่งเสริมงานหัตถศิลป์ไทยให้คงอยู่ท่ามกลางกระแสตะวันตก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสานต่อพระราชปณิธานดังกล่าว ทรงมีพระราชดำรัสว่า งานช่างฝีมือไทยเป็นมาตรวัดสำคัญของความเจริญและความสงบสุขของบ้านเมือง และควรได้รับการพัฒนาด้วยความรู้ทางตะวันตก

พระองค์ทรงตั้งชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนเพาะช่าง” ซึ่งหมายถึง “การบ่มเพาะงานช่าง” และทรงพระราชทานพระราชดำริให้ขยายอาคารเรียนเพื่อรองรับการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ โรงเรียนเพาะช่างมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงขนบการศึกษาศิลปะไทยในยุคใหม่ และกลายเป็นรากฐานให้กับสถาบันศิลปกรรมร่วมสมัยอีกหลายแห่งในรัชกาลต่อมา กล่าวได้ว่ารัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวคือยุคแห่งการปรับตัวของสยามต่อความทันสมัย พร้อมกับการธำรงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา ความคิดสร้างสรรค์ และการบริหารบ้านเมืองอย่างรอบด้าน